ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสโมสรใหญ่ประจำพรีเมียร์ลีกนั้นร้างราจากแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้วเป็นระยะเวลาถึง 9 ปีเลยทีเดียว ดูเหมือนว่ายุคนี้จะไม่ใช่ยุคที่สดใสสำหรับพวกเขาสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่พวกเขานั้นต้องเผชิญกับวิกฤตมากมายและการเปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะทางบอร์ดบริหาร กุนซือ หรือแม้แต่ตัวนักเตะเองก็ตาม
เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการเปิดตัวโอเล่ กุนนาร์ โซลชากุนซือคนเก่าที่ไม่อาจพาทีมไปสู่ฝั่งฝันได้สำเร็จออกแบบฟ้าผ่าทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องให้ปลดมากเท่าไหร่ทางบอร์ดบริหารก็ไม่มีการปลดออกแต่อย่างใด หลังจากแต่งตั้งไมเคิล คาร์ริคขึ้นมาเป็นกุนซือขัดตาทัพดันมีนักเตะหลายคนรู้สึกไม่เคารพเขา
เนื่องจากมองว่าเขามีประสบการณ์ไม่พอทั้งที่เขาสามารถพาทีมชนะได้ทั้ง 3 นัดที่เขาคุมทีม ล่าสุดแมนยูก็ได้ราล์ฟ รังนิกมาคุมทีมแบบชั่วคราว แต่ในช่วงแรกที่มีการปรับตัวผลงานของทีมก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพิ่งมามีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ก็เมื่อไม่กี่เกมให้หลังที่ผ่านมา ยังไม่รวมไปถึงวิกฤตนักเตะตัวสำรองทั้งหลายที่อยากจะย้ายออกจากทีมเนื่องจากไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างเพียงพอ วิกฤตนักเตะตัวหลักที่ตอนนี้เริ่มสูญเสียความมั่นใจแถมยังต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในทีมระหว่างนักเตะด้วยกัน ยังไม่รวมไปถึงปัญหาล่าสุดของเมสัน กรีนวู้ดที่ถูกตำรวจรวบตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังแฟนสาวออกมาแฉว่ามีการทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศอีกต่างหาก
คนที่จะต้องเข้ามาจัดการทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นบอร์ดบริหาร คนที่วางแผนทิศทางของทีมและคอยกำหนดสิ่งต่างๆ ที่ควรจะเกิดขึ้นภายในทีม ช่วงเวลาที่ผ่านมาคนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นรองประธานบริหารอย่างเอ็ด วู้ดเวิร์ด คนที่คอยออกมารับหน้าอยู่เสมอ บอร์ดบริหารวัย 50 ปีผู้นี้เข้ามาอยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ปี 2005 และมีบทบาทสำคัญในการเทคโอเวอร์ของตระกูลเกลเซอร์ ในช่วงแรกการบริหารทีมของเขานั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงามโดยเฉพาะในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แต่หลังจากนั้น 9 ปีที่ผ่านมาเขาไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายเขาก็ต้องลุกออกจากเก้าอี้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสังเวยผลงานที่เลวร้ายและปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในสโมสร เขาได้มีการกล่าวว่าตนเองภูมิใจที่ได้รับใช้แมนยู เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนานกว่า 16 ปี สโมสรยังมีอนาคตที่ดี เขามีความทรงจำตอนที่เราคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เราลงทุนมากกว่า 1000 ล้านปอนด์ในระยะเวลาที่เขาอยู่ในตำแหน่ง เขาดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการของนักเตะและทีมในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา
____________________________________________________________
ติดตามข้อมูลข่าวสารฟุตบอล : เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ
ติดตามข่าวล่าสุด : ลีกสุดฮอตมูลค่านักเตะสูงที่สุดในเอเชีย
Comentários